ร้อยเอ็ด จังหวัดแรกที่ขับเคลื่อนนโยบายให้ประชาชนสามารถปั้มหัวใจเพื่อช่วยฟื้นคืนชีพ

หวังลดอัตราตายในผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาล MOU 10 มิถุนายน นี้

             นายแพทย์ชลวิทย์ หลาวทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันที่เกิดขึ้นนอกโรงพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราป่วยและอัตราตายด้วยสาเหตุจากโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น จังหวัดร้อยเอ็ด พบผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรงพยาบาล ปี 2560 จำนวน 308 คน , ปี 2561 จำนวน 312 คน และได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพจนผู้ป่วยรู้สึกตัว และมีสัญญาณชีพคืนมา ปี 2560 จำนวน 114 คน คิดเป็น ร้อยละ 37.01 และปี 2561 จำนวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 39.10 ดังนั้น หากต้องการเพิ่มอัตราการรอดชีวิต ควรมีการจัดอบรมการช่วยฟื้นชีวิต ขั้นพื้นฐาน (basic life support: BLS) ด้วยการกดหน้าอกที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์สามารถช่วยฟื้นชีวิตพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และต่อเนื่องเป็นไปตามมาตรฐาน จนกว่าจะได้รับการช่วยฟื้นชีวิตขั้นสูงจากโรงพยาบาลต่อไป

            จังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้ประสานความร่วมมือพัฒนาศักยภาพประชาชนให้มีความรู้ และสามารถช่วยฟื้นชีวิตขั้นพื้นฐาน (basic life support: BLS) ด้วยการกดหน้าอกที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรงพยาบาล ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกต้อง รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และอัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ เมืองร้อยเอ็ดสุขภาพดี      

            โดยในวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2562 ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อการมีส่วนร่วม และจัดอบรมวิทยากรครู ก ด้านการช่วยฟื้นคืนชีพแก่ตัวแทนส่วนราชการ สถานประกอบการที่มีประชาชนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงตำรวจจราจร และชมรมสร้างสุขภาพ เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมสาเกต ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดยนายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประธานในพิธี จากนั้นโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดร้อยเอ็ดจะจัดอบรมแก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาทุกคนภายในปี 2562 นี้

 อุไรพรณ์ ทิดจันทึก : บรรณาธิการ / สุกัญญา ขาวศรี : ผู้เขียนข่าว / โรงพยาบาลร้อยเอ็ด / ๗ มิถุนายน ๒๕๖๒

• ก่อนหน้า
• ต่อไป