new banner reh

ประโยชน์หลักของการทำ สมาธิทางการแพทย์ จะทำให้จิตใจ และร่างกายของเราเปลี่ยนไปอย่างไร?

การทำ สมาธิทางการแพทย์ ได้กลายมาเป็นวิธีการบำบัดที่สำคัญ ในระบบการดูแลสุขภาพสมัยใหม่ โดยมีแนวทางในการฝึกสมาธิ คือ การบรรลุถึงสภาวะของความสงบทางจิตใจ และทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ซึ่งได้มีการทำการวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของการทำสมาธิทางการแพทย์มากมาย จนทำให้กลายมาเป็นแนวทางเสริมของการรักษาทางการแพทย์แบบเดิม ๆ

การทำ สมาธิทางการแพทย์ แตกต่างจากการทำสมาธิปกติอย่างไร?
การทำ สมาธิทางการแพทย์ มีเป้าหมายในการฝึก คือ ใช้ในการบำบัดรักษาหรือเสริมสร้างสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาทางกายหรือจิตใจ การทำสมาธิทางการแพทย์มักจะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาทางการแพทย์ หรือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น การจัดการกับความเครียด จัดการกับความเจ็บปวดต่าง ๆ ส่วนการทำสมาธิแบบทั่วไป มักมุ่งเน้นไปที่การผ่อนคลาย การเพิ่มสติ หรือการฝึกจิตใจเพื่อความสงบสุขให้กับชีวิตประจำวัน ดังนั้นในทางการแพทย์แล้ว จะมีวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

การทำ สมาธิทางการแพทย์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตอย่างไร?
การทำ สมาธิทางการแพทย์ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถบรรเทาอาการวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และความเครียดได้อย่างมีนัยสำคัญ การทำสมาธิอย่างเป็นประจำจะช่วยทำให้การควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ และแกนไฮโปทาลามัส-ต่อมใต้สมอง-ต่อมหมวกไต (HPA) ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกาย และมีส่วนช่วยทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น

1.การลดความวิตกกังวล
การทำสมาธิทางการแพทย์ช่วยส่งเสริมการผ่อนคลายโดยปรับกิจกรรมของสมอง โดยเฉพาะในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและความวิตกกังวล เช่น อะมิกดาลา การฝึกฝนการทำสมาธิเป็นประจำสามารถลดความถี่ และความรุนแรงของอาการวิตกกังวลได้ ส่งผลให้มีความสามารถในการฟื้นตัวทางอารมณ์ได้ดีขึ้น ผู้ป่วยจึงคลายความกังวลลงได้ดีกว่าเดิม

2.การจัดการภาวะซึมเศร้า
การทำสมาธิส่งผลต่อกิจกรรมของสารสื่อประสาท โดยเฉพาะการเพิ่มการผลิตเซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งจำเป็นต่อการควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบประสาท ทำให้สมองสามารถปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบความคิดใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการภาวะซึมเศร้า ดังนั้นในผู้ป่วยที่เป็นซึมเศร้า หรือมีแนวโน้มจะเกิดภาวะนี้ แพทย์จะแนะนำให้ฝึกสมาธิ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรค

3.การบรรเทาความเครียด
การทำสมาธิทางการแพทย์เป็นประจำยังช่วยลดระดับคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหลัก โดยกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก การลดระดับคอร์ติซอลนี้ไม่เพียงแต่บรรเทาความเครียดในทันทีเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย โดยพบว่าผู้ที่ทำสมาธิบ่อยๆ มักจะไม่ค่อยมีความเครียดมากนัก

การทำ สมาธิทางการแพทย์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพทางกายอย่างไร?
ประโยชน์ทางกายภาพ ที่ได้จากการทำสมาธิทางการแพทย์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการฝึกกทำสมาธิอย่างต่อเนื่องจะส่งผลอย่างมากต่อระบบสรีรวิทยาของร่างกาย ทำให้สุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ดีขึ้น

1.สุขภาพระบบหัวใจและหลอดเลือด
การทำสมาธิเป็นประจำยังช่วยลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการสงบประสาท ทำให้หัวใจทำงานน้อยลง การศึกษาวิจัยพบว่าผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ น้อยลง

2.การจัดการความเจ็บปวด
การทำสมาธิทางการแพทย์สามารถเปลี่ยนการรับรู้ความเจ็บปวดได้ โดยส่งผลต่อบริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลความเจ็บปวด เช่น คอร์เทกซ์ซิงกูเลตด้านหน้าและอินซูล่า การปฏิบัติตั้งจิตที่ตั้งมั่นอยู่เป็นประจำ จะช่วยเสริมกลไกการบรรเทาความเจ็บปวดตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าในการจัดการกับภาวะเจ็บปวดเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบและไฟโบรไมอัลเจียได้

3.การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
การทำสมาธิมีความเชื่อมโยงกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น การทำสมาธิช่วยให้ร่างกายป้องกันการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยการลดความเครียดซึ่งทราบกันดีว่าสามารถระงับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ การศึกษาวิจัยบางกรณียังระบุด้วยว่าการทำสมาธิอาจเพิ่มการทำงานของเซลล์นักฆ่าธรรมชาติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง

4.ทำให้การนอนหลับดีขึ้น
การทำสมาธิทางการแพทย์ โดยเฉพาะการทำสมาธิแบบมีสติ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถปรับปรุงคุณภาพของการนอนหลับได้ ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น โดยการทำให้จิตใจสงบและช่วยลดความคิดที่ฟุ้งซ่านมากเกินไป และมักนำไปสู่อาการนอนไม่หลับ การนอนหลับที่ดีขึ้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น รวมถึงการทำงานของสมองที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อความผิดปกติของระบบการเผาผลาญในร่างกายด้วย

การทำสมาธิทางการแพทย์เป็นแนวทางแบบองค์รวม ในการดูแลสุขภาพทั้งทางจิตใจและร่างกาย ประโยชน์ของการทำสมาธิมีมากกว่าการผ่อนคลายจิตใจเพียงชั่วคราว แต่ยังช่วยปรับปรุงความชัดเจนทางจิตใจ สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ และช่วยเสริมสุขภาพร่างกายในระยะยาวอีกด้วย


ขอบคุณ บทความดีๆจาก
https://balimeditation.org/ 

ดูน้อยลง
2017@ พัฒนาโดย  ศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด  
111  ถนนรณชัยชาญยุทธ  ตำบลในเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดร้อยเอ็ด 45000   โทร.043-518200   FAX.  043-511503